และแล้วก็มาถึงวันนี้ที่รอคอย สำหรับการจัดงาน WWDC 2011 (Apple WorldWide Developers Conference) จัดขึ้นวันที่ 6-10 มิถุนายน 2554 ที่ Moscone Center เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา?เวลา 10:00 a.m. PT หรือประมาณเที่ยงคืนของวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหลักๆ จะมีการนำเสนอระบบปฏิบัติและบริการใหม่ 3 อย่างคือ iOS 5 + Lion + iCloud = WWDC 2011 และสามารถติดตามเราผ่านช่องทาง Twitter และ FaceBook มีอะไรอัพเดทบ้างติดตามกันได้เลย.. สำหรับคนที่ต้องการดูผ่านวิดีโอแบบเรียลไทม์ แนะนำได้ที่ Engadget หรือ USTream.tv และ อัพเดทข้อมูลกันที่?Macworld
สรุปรายละเอียดงาน WWDC 2011
- Steve ออกมากล่าวเปิดงานเหมือนเช่นเคย และขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้
- จากผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 5200 คน ที่ขายบัตรหมดภายใน 2 ชั่วโมง และได้มีการจัดเตรียมมากกว่า 120 Sessions และ มากกว่า 100 Labs ไว้รองรับแล้ว พร้อมกว่า 1,000 ผู้เชี่ยวชาญของ Apple ที่คอยให้ความช่วยเหลือด้วย
- วันนี้เรามาพูดถึงซอฟท์แวร์กันหลักคือ Lion, iOS 5 และ Cloud
- Phil Schiller และ Craig Federighi พร้อมสาธิตการทำงานของ Lion
- เรามีผู้ใช้ Mac กว่า 54 ล้านคน และคงจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เราจะนำเสนอ Mac OS X Lion ที่มาพร้อมความสามารถใหม่กว่า 250 อย่างเลยทีเดียว อย่างแรกที่เราอยากนำเสนอคือ Multi-Touch Gestures หรือการทำงานด้วยหลายนิ้วสัมผัส
- สำหรับ Lion แล้ว ผู้ใช้จะง่ายในการปรับขนาดโปรแกรมให้ทำงานแบบเต็มจอ (Full-Screen)
- ความสามารถต่อไปคือ Mission Control ตัวควบคุมเมนูแสดงโปรแกรมทั้งหมดที่กำลังทำงานอยู่ โดยแสดงพื้นที่ด้านบนเป็น Widget ให้ควบคุมการทำงานได้
- ถ้าต้องการลบกลุ่มหรือโปรแกรมที่เปิดอยู่สามารถกด X ด้านบนซ้ายได้เลย เหมือนลบโปรแกรมในเครื่อง iPhone หรือ iPad ด้วยเช่นกัน
- กลับมาพูดถึง Mac App Store แหล่งรวมโปรแกรมบนเครื่อง Mac ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดซื้อขายซอฟท์แวร์สำหรับ PC
- แน่นอนว่า Lion ก็ต้องมี App Store ด้วยเช่นกัน มาพร้อมความสามารถ Push Notification (ปกติก็มีอยู่แล้วนะ?)
- และความสามารถอย่างอื่นของ Lion คือ
- Launchpad – นำเสนอโปรแกรมผ่านไอคอนโปรแกรม คล้ายๆ กับ iOS ที่ทำบนบนหน้าจอ iPad สามารถจัดกลุ่มได้เหมือนกัน
- Resume – ความสามารถที่จะทำให้เรากลับมาทำงานต่อได้ หากโปรแกรมที่เราทำงานยังทำไม่เสร็จ เช่น กำลังติดตั้งโปรแกรม หรือโหลดโปรแกรมอยู่ เป็นต้น
- Auto Save – บันทึกงานให้อัตโนมัติ เป็นอีกอย่างที่จำเป็นต้องมี
- AirDrop – ทำให้เราสามารถส่งเอกสารไปยังคนอื่นๆ หรือเครื่องอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ที่ใช้โปรแกรม AirDrop เหมือนกัน ผ่าน Wireless
- new Mail – ปลี่ยนหน้าตาให้สวยขึ้น, ปรับเมนูบาร์ด้านบน, ปรับเมนูค้นหา และอื่นๆ
- สำหรับคนที่ต้องการอัพเกรดเป็น Lion ต้องซื้อผ่าน Mac App Store ราคา $29.99 ขนาดไฟล์ 4GB แต่..มีให้ติดตั้งได้ในกรกฎาคมนี้!!
- ต่อไปพูดถึง iOS 5 มี 200 ล้านอุปกรณ์ iOS ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้ iPad มากกว่า 25 ล้านเครื่องที่ขายใน 14 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือว่า iOS กินส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการบนมือถือถึง 44%
- มีเพลงที่ถูกซื้อผ่าน iTunes ถึง 15 พันล้านเพลง ถือว่าเป็นร้านขายเพลงอันดับ 1 ของโลกไปแล้ว, หนังสือออนไลน์ถูกโหลดไปถึง 130 ล้านครั้งจาก iBookstore, โปรแกรมบน App Store ถูกโหลดไปแล้วกว่า 14 พันล้านครั้ง ซึ่งมีโปรแกรมที่รองรับ iPad กว่า 90,000 โปรแกรม, จ่ายเงินให้นักพัฒนาโปรแกรมไปแล้วกว่า $2.5 พันล้านเหรียญ
- ต่อไปพูดถึงความสามารถทั้งหมดของ iOS 5 ตัวใหม่กัน
- Notification – จะแสดงไว้ที่ส่วนล็อกหน้าจอ และระหว่างใช้งานโปรแกรมแสดงไว้บนสุด
- Newsstand – แผงขายหนังสือ หนังสืออะไรมาใหม่ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือข่าวอื่นๆ สามารถเลือกซื้อจากแผงนี้ได้เลย
- Twitter – จากข้อมูลรูปถ่าย หรือวิดีโอ จะมีปุ่ม Tweet ให้แบ่งปันผ่าน Twitter ได้ง่ายขึ้น
- Safari – เพิ่มแท็บเมนู Reading List ดูรายการที่เคยเปิดอ่าน, สามารถส่งเมลได้ผ่านแท็บเมนูของ Safari
- Reminders – ข้อความแจ้งเตือนนัดหมาย หรือสิ่งที่ต้องทำล่วงหน้า สามารถเชื่อมต่อกับ iCloud ได้
- Camera – เพิ่มปุ่มกล้องเข้ามาที่ล็อกหน้าจอ, กดปุ่มถ่ายรูปด้วยปุ่มเพิ่มเสียงได้, สามารถแก้ไขรูปได้ เช่น Crop, Rotate, ลดตาแดง และ ปรับสีเองได้
- Mail – แก้ไขเนื้อหาเมลได้ง่ายมากขึ้น เช่น ปรับตัวเอียง, หนา, บาง, ย้ายอีเมล, ค้นหาอีเมล, เพิ่ม flag อีเมลสำคัญ, เพิ่ม Dictionary, เปลี่ยนรูปแบบแป้นพิมพ์ใหม่ เป็นต้น
- PC Free – ไม่ต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ทำงานได้ เพราะการทำงานต่างๆ จะฝากไว้ที่ iCloud
- Game Center ? ค้นหาเพื่อนที่คอเกมเดียวกันได้
- iMessage – ปรับรูปแบบระบบข้อความใหม่, สามารถส่งข้อความ วิดีโอ รูปภาพ ผู้ติดต่อ จากเครื่อง iPhone ไป iPad ผ่าน 3G หรือ Wi-Fi ได้
- Sync Over WiFi ? เชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS ผ่านทาง Wi-Fi กับโปรแกรม iTunes
- และอื่นๆ อีกเพียบ
- iOS 5 จะปล่อยให้อัพเดทได้ประมาณฤดูใบไม้ร่วงนี้ (กันยายน-ธันวาคม) สามารถรองรับ iPhone 3GS, iPad 1, iPad 2, iPod touch 3/4 generation
- ต่อไปพูดถึง iCloud ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลหรือมีเดียต่างๆ ฝากไว้ที่ Cloud ผ่าน Wi-Fi ได้
- สามารถแชร์ข้อมูลปฏิทิน, ผู้ติดต่อ และ อีเมล ผ่าน Cloud ได้
- ไม่มีโฆษณาแฝงอีก Steve ยืนยัน
- ใช้บริการอีเมลผ่าน @me.com
- MobileMe ขายในราคา $99 ซึ่งจะไม่ใช้แล้ว จะถูกแทนที่ด้วย iCloud
- แต่ iCloud ฟรี!!
- สามารถ Backup ข้อมูลผ่าน Wi-Fi
- 3 โปรแกรมหลัก Pages, Number และ Keynotes สามารถทำงานผ่านบริการ iCloud ได้
- สามารถทำงานร่วมกับ iOS, Mac และ PC ได้
- นำเสนอโปรแกรม Photo Stream แหล่งเก็บรวมรูปภาพบน Cloud แต่เก็บรูปได้แค่ 30 วัน ได้สูงสุดรวม 1,000 รูป
- นำเสนอโปรแกรม iTunes in Cloud ที่สามารถเลือกโหลดโปรแกรมบนระบบ Cloud และทำงานได้บน iOS 4.3 beta
- ให้บริการฟรีถึง 5GB ในการเก็บข้อมูลต่างๆ บน Cloud
- สามารถใช้บริการ iCloud ได้พร้อม iOS 5
- หลังจากนั้น Steve ก็แนะนำ Data Center แห่งใหม่ที่จะสามารถรองรับบริการ Cloud ได้อย่างแน่นอน พร้อมจบการนำเสนอ
สรุปมีอะไรใหม่บ้าง?
- Lion พร้อมวางจำหน่าย $29.99 กรกฎาคมนี้
- iOS 5 ปล่อยอัพเดทช่วง กันยายน-ธันวาคม
- iCloud ปล่อยอัพเดทพร้อม iOS 5 ให้พื้นที่เก็บถึง 5GB ฟรี!!
อัพเดทวิดีโอการจัดงานทั้งหมดได้ที่ Apple.event